วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

คิดยกกำลังสอง : ทักษะสำหรับโลกอนาคต

คิดยกกำลังสอง : ทักษะสำหรับโลกอนาคต



         ในศตวรรษที่ 21 การเรียนแบบท่องจำ และการเรียนเพื่อรู้แต่ข้อมูล (information) เพียงอย่างเดียว จะมีประโยชน์น้อยลงทุกที หรือเรียกได้ว่า ความรู้จาก 1i ไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับเป็น 4i


     

        เพราะเรากำลังเจอโจทย์ท้าทายแห่งยุค ในการพัฒนาคนให้พร้อมสำหรับ “งานที่ยังไม่มีในวันนี้ โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร”

 

      ปัจจุบันมีโปรแกรมหมากล้อมที่สามารถเอาชนะมนุษย์ได้แล้ว และหลังจากนั้นไม่นานก็มีโปรแกรมอีกตัว ที่เก่งกว่าเดิมสามารถเอาชนะแชมป์โลกหมากล้อมได้สำเร็จ คือ Alpha Go Zero เป็นโปรแกรมที่เรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่มีคนสอนหรือลงโปรแกรมอะไรไว้ เพื่อสนับสนุนข้อความที่ว่าการเรียนแบบท่องจำมีประโยชน์น้อยลง ขอยกตัวอย่างเรื่องดาวพลูโต ดาวพลูโตเคยเป็นส่วนหนึ่งของดาวนพเคราะห์ในยุคหนึ่ง ไม่กี่ปีมานี้ดาวพลูโตถูกลดฐานะให้เป็นดาวเคราะห์แคระ และในเวลาเดียวกันก็ค้นพบดาวเคราะห์แคระแบบดาวพลูโตอีกสี่ดวง ถ้าเราเรียนแบบท่องจำความรู้เหล่านี้จะล้าสมัยและไร้ประโยชน์สำหรับโลกอนาคตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน

 

   เราจะต้องเตรียมพร้อมให้เด็กซึ่งจะเป็นพลเมืองที่ขับเคลื่อนประเทศต่อไปสำหรับงานที่ยังไม่มีในวันนี้ โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ซึ่งในอนาคตมนุษย์เราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่เกิดจนแก่ สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้มนุษย์ยอมรับการเรียนรู้นั้น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ information

    การเรียนรู้แบบเดิมจะเป็นการเรียนรู้แบบ 1 เพียงอย่างเดียว คือ information  สารสนเทศ หมายถึง สิ่งที่ได้จากการประมวลผลข้อมูลและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน  การตัดสินใจ และการคาดการณ์ในอนาคตได้



การเรียนในปัจจุบันต้องมี 4I ได้แก่
1. Imagination (จินตนาการ) เป็นความสามารถในการสร้างภาพในสมอง ซึ่งภาพเหล่านี้ไม่ได้รับรู้ผ่านการมองเห็น การได้ยิน หรือผ่านวิธีการรับรู้อื่น ๆ จินตนาการถือได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการนำความรู้ไปใช้งานจริงและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และยังเป็นรากฐานในการรวมประสบการณ์และกระบวนการเรียนรู้เข้าด้วยกัน การฝึกการสร้างจินตนาการสามารถทำได้โดยการฟังเรื่องเล่า  
2. Inspiration (แรงดลใจ) หมายถึง พลังอำนาจในตนเองชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในการขับเคลื่อนการคิดและ การกระทำใด ๆ ที่พึงประสงค์ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องอาศัยแรงจูงใจภายนอกก่อให้เกิด แรงจูงใจขึ้นภายในจิตใจเสียก่อน เพื่อที่จะกระตุ้นให้เกิดการคิดและการกระทำในสิ่งที่พึงประสงค์เหมือนเช่นปกติวิสัยของมนุษย์ส่วนใหญ่
3. Insight (ความเข้าใจลุ่มลึก) หมายถึง   การรู้อย่างลึกซึ้ง เมื่อเห็นข้อมูลที่เยอะๆแล้วสุดท้ายได้ข้อมูลที่ลึกขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้นกว่าเดิม
4. Intuition (ญาณทัศน์) หมายถึง ความรอบรู้จัดเจน สามารรู้โดยอัตโนมัติ เป็นปรากฏการณ์ของใจ เป็นความสามารถในการได้ความรู้ โดยไม่ต้องอาศัยการอนุมานหรือการคิดโดยเหตุผล

 เรากำลังเจอโจทย์ที่ท้าทาย หากเราเน้นแต่การท่องจำจากบทเรียน การเรียนรู้ต่อไปต้องการทักษะแห่งโลกอนาคตหรือทักษะในศตวรรษที่ 21 มี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ ASK(Attitude, Skill, Knowledge) การสอนในปัจจุบันเน้นความรู้มากเกินไป เน้นทัศนคติและทักษะน้อยเกินไป เราต้องสอนให้เด็กคิดสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ หาความรู้ด้วยตัวเอง สื่อสารเก่ง อดทน และเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย 

             1.Attitude  คือ  สภาวะความพร้อมทางจิตที่เกี่ยวข้องกับความคิด  ความรู้สึก  และแนวโน้มของพฤติกรรมบุคคลที่มีต่อบุคคล  สิ่งของ  สถานการณ์ต่าง ๆ ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และสภาวะความพร้อมทางจิตนี้จะต้องอยู่นานพอสมควร

2.Skill หมายถึง ความชัดเจนหรือความสามารถของบุคคลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งซึ่งอาจเป็นทักษะทางด้านร่างกาย สติปัญญาและสังคม เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ การฝึกฝน  การทำงานร่วมกับผู้อื่น การสอนและการจัดการ ตัวอย่างการใช้ทักษะ เช่น ครูมีทักษะการใช้คำถาม การนำเข้าสู่บทเรียน การใช้สื่อการสอน นักเรียนมีทักษะ การฟัง พูด อ่าน เขียน การคิดคำนวณ หรือทักษะทางสังคม


3.Knowledge  คือสิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียน การค้นคว้าหรือจากประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะ ความเข้าใจหรือสารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ องค์วิชาในแต่ละสาขา


การเรียนการสอนต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้เรียนมีบทบาทมากขึ้น หรือที่เรียกว่า การเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Active Learning) ครูจะมีบทบาทน้อยลง เพราะการบรรยายทำให้เด็กซึมซับความรู้ได้น้อยกว่าการปฏิบัติ

Active Learning คืออะไร? สอนยังไงให้เป็น Active Learning?
Active Learning คือ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ และได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป เป็นการจัดกิจกรรมเรียนรู้ภายใต้สมมติฐาน 2 ประการ คือ
1. การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์
2. แต่ละคนมีแนวทางในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
ความรู้ที่ได้เกิดจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องได้มีโอกาสลงมือกระทำมากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว เกิดการเรียนรู้จากการอ่าน การเขียน การโต้ตอบ และการวิเคราะห์ปัญหา อีกทั้งให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดขั้นสูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า


จากรูปจะเห็นได้ว่า กรวยแห่งการเรียนรู้นี้ได้แบ่งเป็น 2 กระบวนการ คือ

1. กระบวนการเรียนรู้ Passive Learning
กระบวนการเรียนรู้โดยการอ่านท่องจำผู้เรียนจะจำได้ในสิ่งที่เรียนได้เพียง 10%
การเรียนรู้โดยการฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว โดยที่ผู้เรียนไม่มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมอื่นในขณะที่อาจารย์สอนเมื่อเวลาผ่านไปผู้เรียนจะจำได้เพียง 20%
หากในการเรียนการสอนผู้เรียนมีโอกาสได้เห็นภาพประกอบด้วยก็จะทำให้ผลการเรียนรู้คงอยู่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 30%
กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้สอนจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพิ่มขึ้น เช่น การให้ดูภาพยนตร์ การสาธิต จัดนิทรรศการให้ผู้เรียนได้ดู รวมทั้งการนำผู้เรียนไปทัศนศึกษา หรือดูงาน ก็ทำให้ผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเป็น 50%

2. กระบวนการเรียนรู้ Active Learning
การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ ความเข้าใจนำไปประยุกต์ใช้สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วมอภิปรายให้มีโอกาสฝึกทักษะการสื่อสาร ทำให้ผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้น 70%
การนำเสนองานทางวิชาการ เรียนรู้ในสถานการณ์จำลอง ทั้งมีการฝึกปฏิบัติในสภาพจริง มีการเชื่อมโยงกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลการเรียนรู้เกิดขึ้นถึง 90%
ลักษณะของ Active Learning 
เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา การนําความรู้ไปประยุกต์ใช้
·         เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
·         ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
·         ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มีการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฎิสัมพันธ์ร่วมกัน และร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
·         ผู้เรียนได้เรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
·         เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิด
·         เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นทักษะการคิดขั้นสูง
·         เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ และหลักการสู่การสร้างความคิดรวบยอด
·         ผู้สอนจะเป็นผู้อํานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
·         ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน



บทบาทของครู กับ Active Learning 
·         จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน
·         สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
·         จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
·         จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน
·         จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย
·         วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม
·         ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของผู้เรียน

 

       โลกใบใหม่เลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว เพื่อให้เด็กยุคต่อไปสามารถเกิดการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ทักษะสำหรับโลกอนาคตจึงเป็นสิ่งจำเป็น





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น